กองทุน ETF แนะนำการลงทุนใน ETF ต่างประเทศ ที่น่าสนใจ

กองทุน ETF นับเป็นอีกหนึ่งการลงทุนยอดนิยม ซึ่งเป็นตัวเลือกสำหรับนักลงทุนและเทรดเดอร์ทุกประเภท จากความหลากหลายและตัวเลือกในการลงทุนแบบดั้งเดิมที่ยอดเยี่ยม
ในบทความนี้ เราจะนำท่านไปทำความเข้าใจในภาพรวมของ ETF จุดเริ่มต้นลงทุน ETF รวมทั้ง ETF ข้อดี ข้อเสีย และแนะนำการลงทุนใน ETF ต่างประเทศ ไปพร้อมกัน!
รู้จักและเข้าใจในการลงทุนในกองทุน ETF
คุณรู้จักกองทุน ETF มากแค่ไหน ?
กองทุน Exchange Traded Fund หรือกองทุน ETF คือ กลุ่มหลักทรัพย์ที่คุณสามารถซื้อขายผ่านบริษัทโบรกเกอร์ซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งก็คือกองทุนรวมที่จะรวม "กลุ่มของหุ้น" หรือกลุ่มของตราสารทางการเงินเป็นหน่วยการลงทุนเดียวกัน ทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนบน "หน่วยลงทุน" ดังกล่าวได้ทันที โดยที่ไม่ต้องแยกไปซื้อหุ้นหรือตราสารเป็นรายตัว ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่ามาก
แนวคิดลงทุน ETF นั้นคือการพยายามจัดสัดส่วนกลุ่มของตราสารหรือหุ้น ETF ให้มีลักษณะร่วมบางอย่าง ที่สามารถเป็นตัวแทนของ สภาวะเศรษฐกิจ สภาวะผลตอบแทนของอุตสาหกรรม หรือหุ้นเฉพาะของบางประเทศก็ได้ ซึ่งทำให้นักลงทุนสามารถลงทุน "อะไรก็ได้บนโลก" ผ่าน ETF ต่างประเทศได้โดยไม่จำเป็นต้องบินไปเปิดบัญชีของแต่ละประเทศที่จะเข้าไปลงทุน
กองทุน ETF สามารถซื้อขายผ่านบริษัทโบรกเกอร์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ เช่นที่ Admirals ที่จะช่วยให้คุณลงทุน ETF ต่างประเทศ ที่หลากหลาย ดังนี้
- iShares S&P 500 Growth ETF CFD: รวมหุ้นจากดัชนี S&P 500
- VanEck Vectors Gold Miners ETF CFD: รวมเฉพาะหุ้นเหมืองทองคำ
- iShares Silver Trust ETF CFD: กองทุน ETF ที่อ้างอิงผลตอบแทนจากราคาของแร่ Silver
- iShares PHLX Semiconductor ETF CFD: กองทุน ETF ที่อ้างอิงผลตอบแทนจากหุ้นในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์
เรียกได้ว่าเรามี ETF ต่างประเทศให้เลือกหลากหลายประเภท รวมถึงพันธบัตร สกุลเงิน และตลาดที่กำลังเติบโตใหม่ อย่าง เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) หรือหุ้นของบริษัทที่พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) และยังก็มี – ETF Bitcoin อย่างเป็นทางการตัวแรก หรือ ProShares Bitcoin Strategy ETF ให้คุณเลือกลงทุนอีกด้วย!
ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ETF ได้ให้โอกาสแก่เทรดเดอร์และนักลงทุนในการเก็งกำไรหรือลงทุนในภาคส่วนต่างๆ แทนที่จะเลือกสินทรัพย์ส่วนบุคคล
ทั้งนี้ คุณอาจเคยได้ยินข่าวคราวมากมายเกี่ยวกับการเติบโตของ AI แต่ก็อาจไม่ทราบวิธีหาบริษัทที่เหมาะสมในการลงทุน เนื่องจากยังเป็นพื้นที่ใหม่ในตลาด ในกรณีนี้นักลงทุนอาจหันมาเลือกใช้ Global X Robotics & Artificial Intelligence ETF CFD ที่แสดงในภาพด้านล่าง
ในที่นี้การลงทุน ETF คือการพยายามลงทุนในบริษัทที่สามารถได้รับประโยชน์จากความก้าวหน้าในการพัฒนาหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ จึงสามารถให้นักลงทุนเข้าถึงตลาดที่กำลังเติบโต โดยไม่ต้องเลือกบริษัทใดบริษัทหนึ่งโดยเฉพาะ
ผู้ที่สนใจในการลงทุนในกองทุน ETF สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ในคลิปนี้
การลงทุนในแนวทางที่เน้นในภาคส่วนหนึ่งๆ หรือเศรษฐกิจเฉพาะนี้ทำให้กองทุน ETF คือ หนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด สำหรับนักลงทุนรายย่อย และหากเลือกอย่างระมัดระวัง ก็อาจเป็นกลยุทธ์ที่ดีเพื่อการบรรลุเป้าหมายการลงทุน
จุดเริ่มต้นของกองทุน ETF
ในฐานะนักลงทุน เราควรมอง ETF เป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่นับว่าเป็นกองทุน ETF จริงๆ นั้นเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1993 ที่สหรัฐฯ โดย Nathan Most และ Steven Bloom ได้สร้างกองทุน ETF ที่ชื่อว่า Standard & Poor's Depositary Receipts หรือเรียกสั้นๆ ว่า "SPY"
แต่หลังจากนั้น คนที่นับได้ว่าเป็นผู้อย่างรากฐานของการทำกองทุน ETF อย่างจริงจัง ก็คือนักเศรษฐศาสตร์ที่ชื่อ Harry Markowitz หลักการของเขาถูกนำไปต่อยอด กองทุน SPY พัฒนาตัวเองขึ้นมาจากหลักการดังกล่าว จน SPY กลายเป็นที่รู้จักในฐานะกองทุนที่ลงทุนใน S&P 500 ที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุด ตอนหลังเรียกกองทุนนี้ว่า SPDR หรือ Spider และกลายเป็นกองทุน ETF ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยเม็ดเงินรวมตอนนั้นที่มากกว่า 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์
โดยในตลาดหุ้นอเมริกาเพียงแห่งเดียว มีผลิตภัณฑ์ ETF เกือบ 1,000 รายการ ซึ่งมีการลงทุนรวมประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์
ในปี 1996 iShares ได้เปิดตัวใน ETF ทั่วโลก โดยขายกองทุน ETF ในดัชนีต่างๆ ของยุโรป เอเชีย และอเมริกา ดังนั้น iShares จึงเป็นที่ยอมรับว่ามี ETF ที่หลากหลายที่สุด โดยมีตัวเลือกมากกว่า 300 ตัวสำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุน
จึงทำให้เกิดผลกระทบแบบโดมิโน ในแง่ของการเกิดขึ้นของกองทุน ETF ใหม่ๆ ที่นักลงทุนทั่วไปสามารถซื้อขายได้
ความสำเร็จของหุ้น ETF ได้ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมกองทุนที่เกี่ยวข้องกับทองคำเปิดตัว และในปี 2004 กองทุน Gold SPDR (#GLDAR) ก็ได้เปิดตัว และภาพด้านล่างคือประสิทธิภาพของเครื่องมือนี้ในช่วง 1 ปี
ที่ Admirals มีการเสนอทางเลือกในลงทุน ETF โดยตรง ผ่านบัญชี Invest.MT5 ฟรีนอกจากนี้ยังสามารถกิจกรรมการซื้อขายมากกว่าคุณยังสามารถซื้อ ETF CFD ผ่านบัญชี Trade.MT5 ได้อีกด้วย!
ลักษณะของ ETF
กองทุน ETF ก็มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เช่นเดียวกับหุ้นของบริษัท และยังสามารถซื้อและขายได้ในช่วงเวลาซื้อขายเช่นเดียวกับหุ้นจดทะเบียนใน ETF โดยจะมีสัญลักษณ์และราคาระหว่างวัน
และความแตกต่างของหุ้นบริษัทกับ ETF คือ จำนวนหุ้นที่มีอยู่ใน ETF สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน ซึ่งเป็นผลมาจากการสร้างหุ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง และการถอนหุ้นที่มีอยู่ในกองทุน ETF ซึ่งราคาตลาดของ ETF มักจะสอดคล้องกับหลักทรัพย์พื้นฐานอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสามารถออกและไถ่ถอนหุ้นในตัวเองได้
ลักษณะเด่นของ ETF
- มีการซื้อขายเหมือนหุ้น ทำให้สามารถตรวจสอบราคาได้แบบเรียลไทม์
- สามารถซื้อขายได้ตลอดเวลา ในช่วงการซื้อขายปกติ
- เป็นตราสารเดียวที่มีเครื่องมือการซื้อขายหลายอย่าง รวมทั้งหุ้นและตราสารหนี้
- ไม่เหมาะกับนักลงทุนองค์กรหรือนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดการเงิน
จึงกล่าวได้ว่ากองทุน ETF คือ ทางเลือกการลงทุนที่โดดเด่น ซึ่งสามารถซื้อและขายแบบเรียลไทม์และมีค่าธรรมเนียมการจัดการที่ต่ำกว่ากองทุนทั่วไป ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้ ETF เป็นที่นิยมและกลายเป็นการลงทุนพื้นฐานที่นักลงทุนต้องเลือกใช้
ซื้อ ETF กับการลงทุนในกองทุนรวม ต่างกันอย่างไร ?
หากคุณเคยพิจารณาลงทุนในการลงทุนหรือกองทุนรวม คุณอาจรู้สึกว่า ETF และกองทุนรวมที่ลงทุนฟังดูคล้ายกันมาก แม้ว่าทั้ง 2 เครื่องมือนี้จะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ก็มีความแตกต่างกัน ดังนี้
- การลงทุนในกองทุนรวมคือการลงทุนด้วยเงินสมทบของหลายๆ คน รวมเป็นเงินลงทุนจำนวนมาก จากนั้นผู้ทำหน้าที่จัดการกองทุนจะลงทุนตามหนังสือชี้ชวน แต่ ETF คือการซื้อหรือขายโดยตรงในตลาดหุ้นเช่นเดียวกับหุ้น
- กองทุนที่ลงทุนสามารถจัดการได้ทั้ง Active หรือ Passive ในขณะที่กองทุน ETF คือการจัดการแบบ Passive ซึ่งโดยทั่วไปจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก
- การลงทุนกองทุนคือการสร้างผลงานให้เหนือกว่าดัชนี ในขณะที่ ETF พยายามหาผลตอบแทนของดัชนีนั้นซ้ำๆ
เลเวอเรจ ETF คือ ?
เลเวอเรจใน ETF คือ กองทุน ETF ที่ใช้อนุพันธ์ทางการเงินและหนี้ เพื่อขยายผลตอบแทนของดัชนีอ้างอิง ซึ่งโดยทั่วไปจะหมายความว่า คุณสามารถเข้าถึง ETF ที่มีมูลค่าสูงได้จากเงินฝากที่ค่อนข้างต่ำ
แต่ ETF CFD คือ ตัวแทนของสัญญาเลเวอเรจสำหรับส่วนต่างของการรักษาความปลอดภัย ETF เมื่อคุณซื้อ ETF CFD คุณจะไม่ได้เป็นเจ้าของ ETF ที่แท้จริง แต่กำลังซื้อขายในสัญญาสำหรับส่วนต่างของราคา
ซึ่งวิธีนี้จะทำให้คุณสามารถเริ่มต้นทั้งสัญญาซื้อขายในราคา ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดและกลยุทธ์ของคุณ หากซื้อ ETF ปกติในกรณีนี้ คุณก็เป็นเจ้าของตราสารทันที
หากเปรียบกับการซื้อบ้าน - เมื่อคุณจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้า 10% หรือ 20% แล้ว จากนั้นธนาคารจะอนุญาตให้คุณยืมเงินส่วนที่เหลือ เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ ในทำนองเดียวกันบางโบรกเกอร์ก็นำเสนอเลเวอเรจ ETF ให้เทรดเดอร์สามารถฝากเงินเพียง 20% ของมูลค่า ETF เพื่อทำการซื้อขาย
ทั้งนี้ หากราคา ETF ขึ้นหรือลง คุณก็จะพบกับการเปลี่ยนแปลงของราคาทั้งหมด แม้ว่าเงินฝากของคุณจะเป็นเพียงเศษเสี้ยวของมูลค่า ETF ซึ่งหมายความว่าหากตลาดเคลื่อนไหวไปในทางที่คาดหวัง เปอร์เซ็นต์ผลตอบแทนจากการลงทุน (เทียบกับเงินฝากเริ่มต้น) ก็จะสูงกว่าที่ซื้อเต็มมูลค่าทันที อย่างไรก็ตาม หากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับที่คาดการณ์ไว้ ความสูญเสียของคุณก็จะเพิ่มขึ้นในระดับเดียวกัน
อยากทำความเข้าใจในเลเวอเรจ อ่านต่อที่ "Leverage คือ ?" ได้เลย!
ETF ข้อดี ข้อเสีย
เช่นเดียวกับตัวเลือกการลงทุนหรือการซื้อขายอื่นๆ ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งสามารถสรุปข้อดีข้อเสียได้ของ ETF ได้ดังนี้
ข้อดีของการลงทุนใน ETF
- สามารถนำเงินปันผลมาลงทุนใหม่ได้: เมื่อลงทุนใน ETF แบบปลายเปิด เงินปันผลของบริษัทจะถูกนำกลับมาลงทุนใหม่โดยอัตโนมัติ
- การกระจายการลงทุน: ข้อได้เปรียบที่น่าสนใจที่สุดของ ETF คือ ความหลากหลายที่เทรดเดอร์หรือนักลงทุนสามารถลงทุนในหุ้นได้หลายตัว หลายสไตล์ และหลายเซ็กเมนต์
- การเคลื่อนไหวของหุ้น: เช่นเดียวกับหุ้น ETF สามารถรับมาร์จิ้นได้ทั้งแบบการซื้อขายออปชั่นละฟิวเจอร์
- ค่าธรรมเนียมต่ำ: เมื่อเทียบกับกองทุนรวม (Mutual Fund) ETF จะมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า
ข้อเสียของการลงทุนใน ETF
แม้ว่า ETF จะมีข้อดีหลายประการในหลายๆ ด้าน แต่ ETF ก็มีข้อด้อยบางอย่าง ดังนี้
- ความล่าช้าในการชำระบัญชี (Settlement): การชำระราคาในตลาด ETF อาจมีความล่าช้าได้มากถึง 2 วันทำการหลัง ซึ่งหมายความว่า หลังจากขายกองทุน ETF เพื่อทำกำไรแล้ว อาจต้องรออย่างน้อย 1-2 วัน กว่าที่เงินจะเข้ามาในบัญชีข ทำให้เกิดความล่าช้าในการนำเงินไปลงทุนต่อ
- สภาพคล่อง: แม้ว่ากองทุน ETF คือการลงทุนที่มีปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่น แต่หากเป็น ETF ในสินค้าที่ไม่ได้รับความนิยม ก็อาจมีสภาพคล่องไม่มากนัก จึงทำให้เกิดความต่างของราคาซื้อและราคาขาย ซึ่งหมายความว่า ต้นทุนการทำธุรกรรมอาจสูงกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ก็เกิดขึ้นกับหุ้นทั่วๆ ไปที่ไม่ได้มีสภาพคล่องหนาแน่นเช่นกัน ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
- การคลาดเคลื่อนของราคา: ประเด็นนี้อาจเป็นข้อดีสำหรับบางกองทุนที่ทำ Arbitrage โดยเป็นลักษณะที่ราคากองทุน ETF อาจจะไม่ได้สอดคล้องกับสินทรัพย์อ้างอิงในบางจังหวะเวลา
- ค่าใช้จ่ายเปรียบเทียบ: กรณีนี้จะเกิดขึ้นในกรณีที่กองทุน ETF นั้นๆ เป็นกองทุนที่ไม่ได้รับความนิยม ก็อาจทำให้มีค่าธรรมเนียมการซื้อขาย (Bid, Offer) ในราคาที่สูงกว่า ซึ่งการลงทุนในสินทรัพย์ตรงๆ อาจคุ้มกว่าในบางจังหวะ (แต่ต้องบริหารการลงทุนเอง)
กองทุน ETF ต่างประเทศที่น่าจับตามองที่สุดในปีนี้
มาส่อง ETF ต่างประเทศที่ไม่ควรพลาดในปีนี้ไปพร้อมกัน
แม้ว่าจะไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่า ETF ที่ดีที่สุดคืออะไร แต่การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง อาจน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่ยังอายุไม่มาก เนื่องจากมีเวลารับประโยชน์จากแนวโน้มระยะยาวและสร้างความมั่งคั่งผ่านกระแสรายได้ของ ETF ในขณะที่ ผู้เกษียณอายุอาจชอบการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า ซึ่งก่อนจะไปดูกันว่ามี ETF ต่างประเทศตัวไหนที่น่าสนใจบ้าง สิ่งสำคัญในการลงทุน ETF คือต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงที่รับได้ด้วย
1. กองทุน Silver และกองทุนทอง ETF
การเทรดทองคำและเงิน เป็นทั้งการลงทุนในหุ้น defensive หรือที่เรียกว่า safe haven ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน รวมทั้งในสภาพแวดล้อมที่มีเงินเฟ้อสูง ซึ่งกองทุน ETF ต่างประเทศบางส่วนก็ได้รับการสนับสนุนจากการถือครองทองคำจริง ซึ่งมีหลายแห่งอยู่ในรายการทั่วโลก
- Short-Term: SPDR Gold Shares ETF CFD (GLD) เนื่องจากสภาพคล่องที่แข็งแกร่งและต้นทุนการทำธุรกรรมที่ลดลง ซึ่งเกี่ยวข้องกับสเปรด bid/ask
- Long-Term: iShares Gold Trust ETF CFD (IAU) เป็นตัวเลือกเนื่องจากอัตราส่วนค่าใช้จ่ายประจำปีอยู่ที่ 15 basis point ที่ต่ำกว่า GLD ซึ่งอาจมีค่าธรรมเนียม Swap และประสิทธิภาพในอดีตไม่ได้กำหนดผลลัพธ์ในอนาคต
2. กองทุน ETF ในอสังหาริมทรัพย์
นักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์สามารถการกระจายการลงทุนจากทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ประเภทต่างๆ ซึ่ง REIT คือ นิติบุคคลที่พัฒนาหรือจัดการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการสร้างรายได้ และมีหลายประเภท เช่น อยู่อาศัย เชิงพาณิชย์ (เช่น ร้านค้าโรงงาน สถานพยาบาล โรงแรม สำนักงานและศูนย์การค้า) รวมทั้งในอุตสาหกรรมต่างๆ และการจำนอง เป็นต้น
พอร์ตการลงทุนบางประเภทในหมวดนี้ ยังลงทุนในบริษัทที่ดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ด้วย โดยมีกองทุน ETF ต่างประเทศ ด้านอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศที่น่าสนใจ ดังนี้
- Vanguard Large-Cap ETF CFD (VM)
- SPDR Dow Jones International Real Estate ETF CFD (RWX)
- Schwab U.S. REIT ETF CFD (SCHH)
- Apple Hospitality REIT Inc ETF CFD (APLE)
3. กองทุน ETF ของ Vanguard
Vanguard คือ ผู้บุกเบิกด้าน ETF และเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดและถูกที่สุดในโลก โดยมีสินทรัพย์ทั่วโลกภายใต้การจัดการประมาณ 7.2 ล้านล้านดอลลาร์ (ณ วันที่ 31 มกราคม 2021)
Vanguard FTSE Developed Markets ETF CFD (VEA) คือ 1 ใน 3 ของ ETF ต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดที่จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา
ดัชนี ETF ที่ต้องรู้จัก
แม้ว่านักลงทุนจำนวนมากจะพอใจกับผลการดำเนินงานของดัชนี S&P 500 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่บางคนก็พยายามกระจายพอร์ตการลงทุนและค้นหาตลาดอื่นๆ ที่สามารถเพิ่มผลตอบแทนโดยรวมได้
นักลงทุนบางรายอาจต้องการลงทุนในดัชนีที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น หุ้นเทคโนโลยีในดัชนี Nasdaq 100 รวมถึงหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำของโลกหลายแห่ง จนมีสถิติที่เพิ่มขึ้นถึง 27.24 จุด (ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2021)
แล้วเราจะลงทุนในดัชนี Nasdaq 100 ได้อย่างไร ?
ลองดูที่ ETF ต่างประเทศ อย่าง First Trust NASDAQ-100 Technology Index Fund (QTEC) ETF CFD ที่จะช่วยให้นักลงทุนได้สัมผัสกับหุ้นเทคโนโลยีที่หลากหลาย เช่น Facebook, Apple, Amazon, Netflix และ Google ในรูปแบบของ ETF ได้ในที่เดียว!
กองทุน ETF ที่มีการเติบโตสูง
ETF การเติบโตคืออะไร ? พูดง่ายๆ ก็คือ ETF เหล่านี้มีลักษณะการเติบโต ยอดขายที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และอัตราส่วนราคาต่อรายได้ที่ค่อนข้างสูง โดยมีลักษณะ ของ ETF ที่น่าสนใจ ดังนี้
- Vanguard Growth ETF CFD (VUG)
- Technology Select Sector SPDR Fund ETF CFD (XLK)
- Consumer Discretionary Select Sector SPDR Fund ETF CFD (XLY)
- iShares Nasdaq Biotechnology ETF CFD (IBB)
หากคุณสนใจซื้อ ETF ต่างประเทศ แต่ไม่แน่ใจว่าพร้อมที่จะเริ่มต้นหรือยัง สามารถทดลองเทรดกับบัญชีทดลองเทรดของเราได้แล้ววันนี้
บัญชีทดลองเทรดนี้จะช่วยให้คุณสามารถซื้อขายในตลาดจริงได้โดยใช้เงินเสมือน ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถลงทุนในแพลตฟอร์มการซื้อขาย และเลือกใช้กลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ พร้อมเรียนรู้และทำความเข้าใจและซื้อ ETF ต่างประเทศที่คุณสนใจมากที่สุด เพื่อการเตรียมพร้อมสำหรับการเริ่มซื้อขายด้วยเงินทุนจริงในบัญชีจริง
ETF ปันผล และหุ้น ETF ปันผลสูง
มีกองทุน ETF ต่างประเทศสำหรับนักลงทุนที่แสวงหาผลตอบแทนจากเงินปันผลให้เลือกมากมาย แต่ต้องระลึกไว้เสมอว่า รายได้หรืออัตราส่วนรายได้หรือเงินปันผลในอดีตไม่สามารถใช้อ้างอิงถึงการปันผลในในอนาคตได้
โดยมีรายการหุ้น ETF ปันผลสูงที่ควรจับตามอง ดังนี้
กองทุน ETF ในกลุ่มบริษัท AI ที่ควรจับตามอง
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) คือ สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่เน้นการสร้างเครื่องจักรอัจฉริยะที่สามารถทำงานได้และตัดสินใจได้เหมือนมนุษย์
ETF บางกองจึงมุ่งเน้นไปที่เรื่องนี้ และมีแนวโน้มที่จะสร้างประโยชน์จากการใช้ AI เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในด้านต่างๆ ของหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่ในทางอุตสาหกรรม ระบบอัตโนมัติ โซเชียลมีเดีย ยานยนต์อัตโนมัติ และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ
โดยมีกองทุน ETF ของบริษัทที่พัฒนา AI การปรับปรุงเทคโนโลยี และการพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่โดยเฉพาะ ที่น่าจับตามอง ดังนี้
ETF ต่างประเทศและคำถามที่พบบ่อย
ลงทุนกองทุน ETF ปลอดภัยกว่าหุ้นหรือไม่ ?
เนื่องจากกองทุน ETF มีความหลากหลายกว่าหุ้นจึงมีแนวโน้มที่จะมีความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้น แต่ก็ยังต้องเสียภาษภาษีจากกำไร (อัตราขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละประเทศ) และยังสามารถซื้อหรือเทรด ETF ได้ตลอดเวลา
สามารถขาย ETF ได้ตลอดเวลาหรือไม่ ?
ในการซื้อและขายหุ้นหรือ ETF นั้นไม่มีข้อจำกัด ทั้งในการลงทุนขั้นต่ำหรือระยะเวลาที่กำหนดในการซื้อขาย (สามารถซื้อขายได้ตลอดทั้งวัน)
ควรถือ ETF นานแค่ไหน มีค่าธรรมเนียมในการถือครองหรือไม่?
หากคุณถือหุ้น ETF เป็นเวลา 1 ปีหรือน้อยกว่านั้น กำไรก็คือการเพิ่มทุนระยะสั้น หากคุณถือหุ้น ETF นานกว่า 1 ปี กำไรก็คือกำไรระยะยาว นอกจากนี้การลงทุนกองทุน ETF ยังไม่เก็บค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย แต่อาจมีค่าคอมมิชชั่นจากโบรกเกอร์ (ซึ่งอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริษัท)
ซื้อ ETF ต่างประเทศและ ETF CFD กับ Admirals
หากพร้อมที่จะเริ่มลงทุนหรือซื้อ ETF ต่างประเทศแล้ว สามารถเริ่มต้นด้วยการเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และเปิดบัญชีลงทุนเพื่อเข้าถึงการใช้แพลตฟอร์มการลงทุนที่ประสิทธิภาพ
Admirals คือโบรกเกอร์ที่ได้รับรางวัลและการกำกับดูแลจากองค์กรการเงินระดับโลก จีงสามารถให้บริการ ETF ผ่านบัญชี Invest.MT5 หากคุณต้องการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดกว่า 15 แห่งทั่วโลก พร้อมการเข้าถึงข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ได้แบบฟรีๆ รวมทั้งการเข้าถึงกราฟขั้นสูง การวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมทั้งแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ล้ำสมัย และอีกมากมาย เปิดบัญชีวันนี้ คลิกที่แบนเนอร์ได้เลย!
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรตีความว่ามีคำแนะนำในการลงทุน ข้อเสนอ หรือการชักชวนสำหรับธุรกรรมใดๆ ในเครื่องมือทางการเงิน โปรดทราบว่าการวิเคราะห์การซื้อขายด้านบน ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับทั้งในปัจจุบันหรือในอนาคต เนื่องจากสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คุณควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน