Range Trading คือ ? รู้จักกับกลยุทธ์ Range Trading สำหรับตลาด Forex

Range Trading คือ ? คุณน่าจะเคยได้ยินภาษิตการเทรดยอดนิยมอย่าง "เทรนด์คือเพื่อนของคุณ" แต่สำหรับเทรดเดอร์อาชีพแล้ว เพื่อนที่แท้จริงอาจเป็น "ความผันผวน" และพฤติกรรมการย่ำอยู่กับที่เป็นโซนๆ ของราคา เรากำลังพูดถึงกลยุทธ์และเทคนิค Range Trading
ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่าการเทรดแบบ Range คืออะไร วิธีระบุตลาดที่มี Range และวิธีการสร้างกลยุทธ์การเทรด Forex และเทคนิค Range Trading ไปพร้อมกัน
ทุกเรื่องที่ควรรู้ในการเทรด Range Trading
Range Trading คือ ?
แนวคิดของการเทรดตามเทรนด์ หรือ Trend Following นั้นพอจะเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะเมื่อราคาเคลื่อนตัวไปในทิศทางหนึ่งๆ อย่างชัดเจนแล้ว เทรดเดอร์บางกลุ่มจะเข้ามาฉกฉวยประโยชน์ด้วยความมุ่งหวังว่า ราคาจะยังเคลื่อนไปไหนทิศทางนั้นอยู่ต่อไป
แต่ตลาดที่ไม่ได้มีทิศทางต่อเนื่องไปในทิศทางหนึ่งๆ ภาษาไทยเรานิยมเรียกว่า "กรอบ" หรือ "ไซด์เวย์" สากลใช้คำว่า "Range Trading" ซึ่งเป็นแนวคิดตรงกันข้าม เทรดเดอร์คาดหวังกำไรที่น้อยลง แต่เพิ่มความถี่ในการเทรดภายใน Range ดังกล่าว
Range Trading คือ การเทรดในตลาดที่เล่นเป็น "กรอบ" หรือ "ไซด์เวย์" โดยกรอบของ Range ต้องใหญ่พอหรือระยะเวลาพอสมควร เช่น 2 สัปดาห์, 3 เดือน เป็นต้น เทรดเดอร์พร้อมที่จะสวนแนวโน้ม โดยอาจ Sell ที่โซนบนของกรอบราคา และ Buy ที่โซนล่างของกรอบ
ต่างจากการเทรดแบบตามแนวโน้มที่เทรดเดอร์จะพยายามหลีกเลี่ยงการ "สวนแนวโน้มหลัก" เพราะแนวคิด Trend Following คาดหวังส่วนต่างของราคาที่กว้าง ดังนั้น การเทรดสวนแนวโน้มจึงไม่สามารถตอบโจทย์แนวคิดดังกล่าว เพราะไม่มีทางที่ราคาจะไปถึงจุด Take Profit ตามกลุยทธ์
วิธีสร้างกลยุทธ์ Range Trading
เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะใช้ประโยชน์จากตลาด Forex ที่มีกรอบขอบเขต เพื่อทำกำไรจากช่วงเวลาที่ตลาดขาดทิศทางที่ชัดเจน ตอนนี้เรารู้แล้วว่าตลาดที่มีขอบเขตขอบเขต (Range-Bound Market) คืออะไรและมีหลักการพื้นฐานอย่างไร และจะสามารถใช้สิ่งเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์เพื่อสร้างกลยุทธ์การซื้อขาย Range Trading อย่างไร
การใช้กลยุทธ์การเทรด Range Trading ให้ประสบความสำเร็จนั้นต้องการ Range-Bound Market ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ขั้นตอนแรกของเราคือการระบุช่วงการเทรด ช่วงการเทรดสามารถเกิดขึ้นได้กับตราสารทางการเงินและกรอบเวลาใดเวลาหนึ่ง จึงกล่าวได้ว่าการใช้ Range Trading นั้นสามารถใช้ได้กับการเทรดในทุกสไตล์
ซึ่งโดยทั่วไป การเทรดแบบ Range Trading นั้นสามารถระบุราคาได้หลังจากราคาฟื้นตัว 2 ครั้งจากแนวรับเดียวกันและ 2 ครั้งจากแนวต้านเดียวกัน โดยมีจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่ประกอบกันเป็นพื้นที่ของแนวรับและแนวต้านในแต่ละครั้งที่แตกต่างกัน (แต่ต้องอยู่ใกล้ๆ กัน)
ตัวอย่างกลยุทธ์ Range Trading
กลยุทธ์ Range Trading ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดที่มีกรอบการเคลื่อนไหวที่จำกัด โดยเฉพาะในตลาด Forex เพราะธรรมชาติของค่าเงินนั้นมีแนวโน้มจะถูกแทรกแซงให้มีมูลค่าภายในกรอบหนึ่งๆ เมื่อเทียบกับค่าเงิน U.S. Dollar
เพราะว่าค่าเงินที่มีแนวโน้มอ่อนค่าหรือแข็งค่าอย่างต่อเนื่องจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศหนึ่งๆ ดังนั้น ในแนวโน้มภาพกลางหรือใหญ่ ค่าเงินจะเคลื่อนไหวเป็น Range ในเบื้องต้น กลยุทธ์ Range Trading ที่ประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มจากการเลือกสินค้าที่มีพฤติกรรมสอดคล้อง ซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้แก่ คู่เงิน Forex หรือตลาดเงินตราต่างประเทศต่างๆ นั่นเอง
แล้วจึงวางกรอบราคาที่ต้องการเทรด เช่น หากต้องการวางกรอบเวลาที่จะเล่นประมาณ 3-4 ชั่วโมง เทรดเดอร์มีแนวโน้มจะใช้กราฟ 5 นาที แล้วตีกรอบการสวิงของราคาไว้ดังเช่นตัวอย่าง GBPJPY ในภาพด้านล่าง จะเห็นว่า กรอบราคากินเวลาราว 15-20 ชั่วโมง แม้เราจะวางแผนที่จะเทรด 3-4 ชั่วโมงก็ตาม
เมื่อคุณได้กรอบ บน-ล่าง อย่างน้อย 3-4 จุดแล้ว คุณจะสังเกตเห็นจุดเข้าเทรดได้ในทันที อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดเกี่ยวกับจำนวนครั้ง เพียงแต่เมื่อต้องตีกรอบบนล่างเริ่มต้นอย่างน้อย 2 จุดแล้ว ดังนั้น จำนวนครั้งที่น้อยที่สุดที่เทรดเดอร์จะเริ่มเทรดได้ ก็คือการทดสอบกรอบราคาในครั้งที่ 3 นั้นเอง
เมื่อราคาปะทะกรอบใดกรอบหนึ่ง ไม่ว่าจะด้านบนหรือด้านล่าง เทรดเดอร์ที่มีเวลาเฝ้ากราฟจะรอให้เกิดแท่งเทียนกลับตัว หรือ 'Reversal' เพื่อยืนยันว่ากรอบนั้นยังแข็งแรงอยู่ หลังจากนั้นก็เปิดสถานะสวนกรอบเข้ามา เช่น เมื่อราคาปะทะกรอบบน ก็ให้ Sell ลงมา
ซึ่งคุณเข้าใจธรรมชาติของกรอบราคาแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องใช้เวลาจำนวนมากในการเฝ้ากราฟด้วยซ้ำ เพราะคุณสามารถตั้งการซื้อขายล่วงหน้า หรือที่เรียกว่า Pending Order ได้ แน่นอนว่า วิธีการนี้คุณต้องคำนวณความเสี่ยงอย่างรัดกุมไว้ก่อน ซึ่งเราได้อธิบายทั้งเรื่อง Pending และการคำนวณ Stop Loss ไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้คุณทดสอบการใช้งานในตลาดจริงๆ ก่อน ซึ่งวิธีการที่ง่ายที่สุดคือการทดสอบในบัญชีทดลองเทรดหรือ Demo Account เปิดโอกาสในคุณสามารถทดลองกลยุทธิ์การเทรด Forex ได้ทุกประเภทโดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ เลย คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่าง!
การใช้ Indicator สำหรับ Range Trading
ในหัวข้อก่อนหน้า นั้นคือทั้งหมดของพื้นฐานของกลยุทธ์การซื้อขายแบบ Range Trading แล้ว คุณเพียงแค่ต้องเรียนรู้หลักการเบื้องต้นในการตีแนวรับหรือแนวต้าน เพื่อกำหนดโซนในการเทรด และใช้สัญญาณการเทรดแบบแท่งเทียนกลับตัว แต่ทั้งนี้ เทรดเดอร์หลายคนก็ประยุกต์ Indicator มาใช้งานได้อย่างเข้ากัน
Indicator สำหรับที่ใช้สำหรับสร้างสัญญาณซื้อขายภายใน Range เราจะใช้เครื่องมือในกลุ่ม Oscillator ต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Relative Strength Index (RSI), Williams Percent Range (%R), Stochastic Oscillator เป็นต้น
ตัวอย่างด้านล่าง คือ การใช้ %R โดยพื้นฐานอาจเริ่มจากใช้เป็น "สัญญาณเตือน" ถึงการกลับตัว โซนเฝ้าระวังจะอยู่ -20 จะเตือนว่าใกล้ถึงจุดกลับตัวในฝั่งขาขึ้น และสำหรับ -80 คือภาวะการฟื้นตัวของราคาใกล้มาถึง แต่อยากให้สังเกตดี ๆ ว่า เมื่อ %R ถึง -20, -80 ราคายังคงไปต่ออีกสักระยะใหญ่ๆ
%R นิยมใช้ในการเทรดแบบ Range Trading เพราะมีแนวโน้มจะรักษาแนวคิดเก่าในการเทรดแบบดังกล่าว คือการรอให้ราคากลับตัวมาก่อน ค่อยเข้าเทรดตามแท่งเทียนนั้นๆ โดยสมัยก่อนจะรอให้ %R วกกลับเข้ามาภายในโซน -20 และ -80 ก่อน
จากภาพ USDCAD ให้สังเกตจุดที่ [2] จะเห็นว่า เมื่อ Indicator เข้าที่จุด -20 แล้ว ราคายังไปต่ออีกค่อนข้างไกลเลยทีเดียว ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับสถานะ Sell ของคุณได้ แต่หากรอให้ %R กลับตัวลงมาก่อน แล้วค่อย Sell เราจะเข้าได้ที่จุดที่ปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งก็ต้องแลกกับราคาที่แพงขึ้นสำหรับการ Sell อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่หลักการตายตัวสำหรับทุกคน
คุณต้องปรับให้เข้ากับมุมมองและความสามารถในการรับความเสี่ยงของคุณ หากคุณไม่สบายที่จะซื้อในต้นทุนที่แพง คุณต้องหา Indicator อื่น ๆ ที่ให้สัญญาณใกล้จุดกลับตัว แต่นั่นก็หมายถึง โอกาสโดน Stop Loss จะง่ายกว่า ในทางกลับตัว หากคุณรอให้ %R กลับตัวลงมาก่อน คุณได้ราคาปลอดภัยก็จริง แต่คุณจะมีแนวโน้มที่ต้องวาง Stop Loss กว้างขึ้นนั่นเอง
▶ สรุปกลยุทธ์ Range Trading
กลยุทธ์ Range Trading สามารถทำกำไรสำหรับตลาดที่ไม่มีแนวโน้ม แต่ต้องตระหนักด้วยว่า "ส่วนต่างของราคานั้นจะแคบ" คุณต้องไม่คาดหวังจะได้กำไรมากๆ ตั้งแต่แรก เมื่อคุณเข้าเทรดในจุดที่ดี คุณก็ต้องไม่คาดหวังว่าราคาจะทะลุไปต่อ คุณต้องปิดทำกำไรออกจากการเทรดอย่างเคร่งครัด
ใช้งาน MT5 และเปิดบัญชีทดลองฟรี!
- เปิดบัญชีทดลองเทรดฟรี และเปิดใหม่ได้เรื่อยๆ หากบัญชีหมดอายุ
- เทรดตลาด Commodity สำคัญๆ ได้ครบทุกตัว ทองคำ, น้ำมัน, แร่ธรรมชาติ ฯลฯ
- ฝึกลงทุนแบบนักลงทุน VI ด้วยพันธบัตรและกองทุน ETF ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น ARK, iShare, SPDR
การเปิดบัญชีกับ Admirals นั้นสะดวกรวดเร็วมากๆ คุณเพียงกรอกแค่ชื่อกับอีเมลเท่านั้น คุณก็จะได้รับอีเมลรหัสสำหรับการเข้าเทรด และลิงค์สำหรับดาวน์โหลดโปรแกรมเทรด คลิกเปิดบัญชีที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้ได้เลย
คำถามที่พบบ่อยในการเทรด Range Trading
กลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการเทรด Range Trading
กลยุทธ์การเทรดที่ดีที่สุดคือการซื้อใกล้ระดับแนวรับและขายใกล้แนวต้าน โดยใช้ Price Channel Indicator หรืออินดิเคเตอร์บอกเทรนด์ หลังจากสร้าง Range แล้วนั่นเอง
เทรดแบบ Range Trading ทำกำไรได้จริงมั้ย ?
การเทรดแบบ Range Trading คือ การจำกัดขอบเขตในการเทรด ซึ่งอาจเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้แนวทางการเทรดแบบดั้งเดิม ด้วยการโฟกัสไปที่สินทรัพย์ที่มีการซื้อขายในช่วงที่กำหนด ทำให้สามารถนักเทรดทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น โดยไม่ต้องรับความเสี่ยงมากเกินไป
Range Trading กับ Trading Trend ต่างกันยังไง ?
การเทรดแบบ Range Trading คือการแบ่งช่วงในการเทรดที่ใช้การระบุและซื้อขายภายในช่วงราคาที่ตลาด Forex มีการซื้อขาย หรือการขายสูงและซื้อต่ำ แต่ Trading Trend หรือการซื้อขายตามเทรนด์หรือแนวโน้มนั้นจะซื้อขายในทิศทางของแนวโน้มโดยรวมของตลาด Forex จึงมีการซื้อสูงและขายที่สูงขึ้น หรือขายต่ำและซื้อต่ำกว่า
บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ
- ประชุม Fed (FOMC) สำคัญอย่างไร ทำไมเราต้องติดตาม ?
- แนสแด็ก (Nasdaq 100) รู้จักและเข้าใจก่อนเริ่มลงทุน!
- Purchasing Power Parity คืออะไร : บทความเดียวจบ
ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อการวิเคราะห์:
สื่อ, สารสนเทศที่ได้นำเสนอมีรายละเอียดที่เชื่อมโยงกับการวิเคราะห์ การประเมินผลลัพธ์ การคาดการณ์และการพยากรณ์รายเดือนหรือรายสัปดาห์ รวมถึงข้อมูลอื่นใดที่มีลักษณะของข้อมูลในรูปแบบเดียวกัน (ต่อไปจะเรียกว่า "การวิเคราะห์") ซึ่งได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ของ Admirals SC Ltd. ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน โปรดศึกษาและพิจารณาข้อควรระวังดังต่อไปนี้
- นี่คือการสื่อสารทางการตลาด การวิเคราะห์ที่ถูกเผยแพร่ไปนั้น มีวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่สามารถตีความได้ว่าเป็นข้อเสนอแนะหรือคำแนะนำทางด้านการลงทุน ไม่ได้จัดทำขึ้นตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความเป็นอิสระของการวิจัยการลงทุน (Independence of Investment Research) และไม่อยู่ภายใต้ข้อห้ามใด ๆ ในการจัดการก่อนการเผยแพร่การวิจัยการลงทุน
- การตัดสินใจลงทุนใดๆ ของลูกค้า เป็นการตัดสินใจแต่โดยลำพังของลูกค้าเอง ซึ่ง Admirals SC Ltd.จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากการตัดสินใจดังกล่าว ไม่ว่าการตัดสินใจนั้นจะเป็นผลจาก "การวิเคราะห์" หรือไม่ก็ตาม
- ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้าของเราและความเที่ยงธรรมของการวิเคราะห์ Admirals SC Ltd ได้กำหนดกระบวนการภายในที่เกี่ยวข้องสำหรับการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์
- การวิเคราะห์จัดทำโดยนักวิเคราะห์อิสระ (นักวิเคราะห์) (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า "ผู้เขียน") เนื้อหาเป็นไปตามการประมาณการณ์ส่วนบุคคลของพวกเขา
- ในขณะที่ใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลเพื่อให้แน่ใจว่า แหล่งที่มาของเนื้อหาทั้งหมดมีความน่าเชื่อถือและมีการนำเสนอข้อมูลทั้งหมดในลักษณะที่เข้าใจได้ทันเวลา แม่นยำและครบถ้วนมากที่สุด อย่างไรก็ตาม Admirals SC Ltd ไม่รับประกันความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของ ข้อมูลใด ๆ ที่อยู่ในการวิเคราะห์
- ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาหรือแบบจำลองใด ๆ ในอดีตของเครื่องมือทางการเงินที่ระบุไว้ในเนื้อหา ไม่ควรถูกตีความว่าเป็นการรับประกันโดยชัดแจ้งหรือโดยนัยโดย Admirals SC Ltd สำหรับผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นในอนาคต มูลค่าของตราสารทางการเงินอาจเพิ่มขึ้นและลดลง ไม่มีการรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับมูลค่าสินทรัพย์ทั้งสิ้น
- ผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ (รวมถึงสัญญาสำหรับความแตกต่าง; CFD) เป็นลักษณะของการเก็งกำไรและอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียหรือกำไร ก่อนที่คุณจะเริ่มการซื้อขายโปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้