รู้จักหุ้น Recession Proof พร้อมส่องหุ้นต่างประเทศที่น่าจับตามองในภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทั้งจากเงินเฟ้อสูง อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และความขัดแย้งอย่างต่อเนื่องในยุโรป อาจทำให้เกิดความสงสัยว่า เราจะประสบกับเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้หรือไม่ และหากเกิดเศรษฐกิจถดถอยขึ้นจริง ตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร และมีหุ้นต่างประเทศตัวไหนที่จะไปได้ดีในช่วงเศรษฐกิจถดถอยนี้หรือไม่?
ในบทความนี้ เราจะนำท่านไปสำรวจว่ายังมีธุรกิจใดบ้างที่ทำผลงานดีในช่วงเศรษฐกิจถดถอย และทำความรู้จักหุ้น Recession Proof ที่อาจเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนในภาวะเศรษฐกิจถดถอยนี้ไปพร้อมๆ กัน
รู้จักกับหุ้น Recession Proof และเศรษฐกิจถดถอย
เศรษฐกิจถดถอย (Recession)
โดยทั่วไปศรษฐกิจจะเป็นไปตามรูปแบบที่เรียกว่า "วัฏจักรทางเศรษฐกิจ หรือ Economic Cycle" ซึ่งในวัฏจักรนี้จะมี 4 ขั้นตอน คือ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (Expansion) ที่เศรษฐกิจสามารถเติบโตค่อนข้างเร็ว ดอกเบี้ยมีแนวโน้มต่ำ และมีการผลิตที่เพิ่มขึ้น จุดรุ่งเรืองหรือจุดพีค (Peak) เมื่อเศรษฐกิจขยายตัวอย่างเต็มที่ก็จะมาถึงจุดรุ่งเรืองหรือสูงสุดของวัฏจักรหรืออัตราการเติบโตสูงสุด ช่วงเศรษฐกิจหดตัว (Contracts) หลังจากเกิดจุดพีคหรือจุดสูงสุดแล้ว เศรษฐกิจก็จะเริ่มมีการปรับฐานจึงมีอัตราการเติบโตช้าลง การจ้างงานลดลง และราคาก็จะซบเซาลงไป จนไปถึงจุดต่ำสุดของวัฏจักร (Trough) ถึงเมื่อเศรษฐกิจถึงจุดต่ำสุดและจากนั้นก็จะเริ่มฟื้นตัว (Recovery)
ซึ่งช่วงเวลาของการหดตัว(Contracts) อย่างการการเติบโตทางเศรษฐกิจเชิงลบเกิดขึ้น 2 ไตรมาสติดต่อกันก็จะนิยามเศรษฐกิจในช่วงนั้นว่ามี "ภาวะเศรษฐกิจถดถอย"
เกิดอะไรกับตลาดหุ้นในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ?
โดยทั่วไปตลาดหุ้นจะเคลื่อนไหวควบคู่ไปกับวัฏจักรเศรษฐกิจ เมื่อเศรษฐกิจขยายตัว ผู้บริโภคมีความมั่นใจมากขึ้นและมีการจับจ่ายมากขึ้น ก็จะเป็นการช่วยเพิ่มผลกำไรของบริษัทไปด้วย
ในทางกลับกัน เมื่อเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย ผู้บริโภคก็จะสูญเสียความมั่นใจและระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น การบริโภคจึงลดลง และแน่นอนว่ากำไรของบริษัทต่างๆ ก็อาจลดลงและส่งผลกระทบราคาหุ้นด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังได้รับผลกระทบจากภาวะถดถอยทางจิตวิทยาอีกด้วย กล่าวได้ว่าหากอนาคตของเศรษฐกิจเริ่มไม่แน่นอน นักลงทุนบางคนจึงเลือกที่จะยกเลิกการถือครองหุ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น จึงส่งผลให้ราคาหุ้นตก ซึ่งอาจทำให้เกิดความตื่นตระหนกในหมู่นักลงทุนที่มีประสบการณ์น้อย ซึ่งขายหุ้นออกไปด้วยความกลัว จึงทำให้หุ้นราคาตกลงไปอีก
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเรื่องทั่วๆ ไป และไม่ใช่หุ้นทุกตัวที่เหมือนกัน ดังนั้น จึงไม่ใช่หุ้นทุกตัวที่จะมีพฤติกรรมเหมือนกันตลอดวงจรเศรษฐกิจนี้ แต่หุ้นวัฏจักรก็มีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ก็มีหุ้นอีกกลุ่มที่มีแนวโน้มในการคงตัวที่ดีแม้ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยนี้ นั่นคือ "หุ้น Recession Proof"
รู้จักหุ้น Recession Proof - ทางเลือกในเศรษฐกิจถดถอย
อย่างที่กล่าวข้างต้น หุ้นบางตัวก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาในลักษณะเดียวกับช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งหมายความว่านั่นคือทางเลือกของหุ้นที่ดีที่สุด สำหรับภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในช่วงเวลานั้น
ด้วยเหตุผลนี้ จึงไม่สามารถจัดทำรายชื่อหุ้น Recession Proof ได้อย่างแน่ชัดซึ่งจะแตกต่างจากหุ้น Defensive อย่างไรก็ตาม ก็มีสิ่งที่เราสามารถนำมาใช้ในการเลือกพิจารณาระบุอุตสาหกรรมต่างๆ จากผลงานในอดีตที่สามารถปรับตัวได้ดีในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
และหากนักลงทุนมองหาหุ้น Recession Proof ก็ต้องมองหาบริษัทที่สามารถรักษาอุปสงค์หรือต้องการสินค้าหรือบริการได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องคำนึงถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจถดถอยที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ดังนั้น เพื่อค้นหาหุ้น Recession Proof นักลงทุนจึงต้องคำนึงถึงการใช้จ่ายที่ผู้บริโภคมักจะให้ความสำคัญ โดยในอดีตมี 3 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่มักจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับหุ้น Recession Proof
หุ้นสินค้าอุปโภคบริโภค ในกลุ่มสินค้าจำเป็น (Consumer Staples)
สินค้าอุปโภคบริโภค ในกลุ่มสินค้าจำเป็น คือ สินค้าหลายประเภทที่ผู้บริโภคจำเป็นจะต้องใช้และซื้อต่อไป ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ซึ่งก็คือ อาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์สุขอนามัย
แน่นอนว่า บริษัทที่ผลิตหรือขายสินค้าสำหรับผู้บริโภคนี้จึงมักถูกมองว่าเป็นหุ้น Recession Proof ซึ่งมีบริษัทที่น่าสนใจในหุ้นสินค้าอุปโภคบริโภค ดังนี้
- Tesco: ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสหราชอาณาจักร (มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 27%) โดยในปี 2022 นี้ โดย Tesco สามารถใช้จุดแข็งจากอุปสงค์ที่มั่นคงตลอดในทุกภาวะเศรษฐกิจ ที่ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนหรือแม้กระทั่งเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ผู้บริโภคยังคงใส่ใจในต้นทุนมากขึ้น จึงมักจะรับประทานอาหารที่บ้านบ่อยขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง Tesco ด้วยเช่นกัน!
- Procter & Gamble (P&G): หนึ่งในบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก P&G เป็นเจ้าของแบรนด์ต่างๆ เช่น Vicks, Oral B, น้ำยาล้างจาน Fairy, Pampers และ Herbal Essences ด้วยแบรนด์ดังที่หลากหลาย จึงทำให้ P&G มีสภาวะที่ดีที่จะสร้างผลลัพธ์ได้ดีในช่วงเศรษฐกิจถดถอย โดยมีบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ที่คล้ายกันอย่าง Unilever และ PepsiCo เป็นต้น
หุ้นสุขภาพ (Healthcare)
โดยทั่วไปสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีคือสิ่งที่ไม่ได้ผกผันไปกับวัฏจักรเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับที่ผู้คนไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเข้ารับการรักษาพยาบาลเมื่อมีความจำเป็น ด้วยเหตุผลนี้ บริษัทต่างๆ ที่ดำเนินธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพจึงมักเป็นทางเลือกของหุ้น Recession Proof โดยมีหุ้นสุขภาพที่น่าสนใจ ดังนี้
- Vertex Pharmaceutical: Vertex คือ หุ้นเทคโนโลยีชีวภาพที่ผลิตยาเพื่อรักษาโรคทางพันธุกรรมที่หายาก โดยเน้นที่การรักษาซิสติก ไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis) ซึ่งเป็นโรคทางความผิดปกติทางพันธุกรรม ดังนั้น ผู้ที่ต้องการการรักษาอาการผิดปกติประเภทนี้ก็ต้องการรักษาโดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
- UnitedHealth Group: ที่นำเสนอทั้งผลิตภัณฑ์ด้านการดูแลสุขภาพและบริการประกันภัย และเป็นบริษัทด้านการดูแลสุขภาพที่มีรายได้เป็นอันดับ 2 ของโลก และหากรวมรายได้นอกเหนือจากอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพแล้ว ก็มีรายได้รวมถึง 287.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นบริษัทใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลกในปี 2021 กล่าวได้ว่าบริษัทด้านการดูแลสุขภาพอย่าง UnitedHealth จึงมีแนวโน้มที่จะเป็นหุ้น Recession Proof ได้
หุ้นสาธารณูปโภค
เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้คนในปัจจุบันนั้นก็ต้องการสาธารณูปโภคและมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญในการจ่ายค่าสาธารณูปโภคมากกว่าการใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่จำเป็น ดังนั้น ผู้ให้บริการก๊าซ ไฟฟ้า และโทรศัพท์ จึงยังสามารถดำเนินการไปได้ด้วยดีจากอุปสงค์ที่ต่อเนื่องในระดับที่คงที่ตลอดวัฏจักรเศรษฐกิจ
บริษัทเหล่านี้อาจดูไม่น่าตื่นเต้นหรือคุ้มค่าที่จะลงทุนในช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัว อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ความต้องการที่สม่ำเสมอนี้ คือ สิ่งที่นักลงทุนกำลังมองหา และนั่นคือเหตุผลที่หุ้นสาธารณูโภคจะถูกนำมาอยู่ในหุ้น Recession Proof
- Centrica: คือบริษัทพลังงานและบริการที่ให้บริการไฟฟ้าและก๊าซแก่ผู้บริโภคทั่วสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ ภายใต้ชื่อแบรนด์ต่างๆ รวมถึง British Gas โดยให้บริการแก่ลูกค้ามากกว่า 10 ล้านคน
- National Grid: บริษัทสัญชาติอังกฤษอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของและผูกขาดเกือบทั้งหมดในการจัดการเครือข่ายส่งไฟฟ้าและก๊าซทั่วเกาะ Great Britain และตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา
หุ้น Recession Proof น่าสนใจอย่างไร
สิ่งที่ควรพึงระลึกอยู่เสมอ คือ หุ้น Recession Proof นี้ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ที่แน่นอนและไม่มีรายการที่ชัดเจน แม้ว่าเราจะสามารถตรวจสอบกลุ่มอุตสาหกรรมที่ทำผลงานได้ดีในอดีตในช่วงภาวะถดถอยหรือภาวะเศรษฐกิจถดถอยนี้ได้ แต่สิ่งสำคัญในการกำหนดหุ้นต่างๆ ให้เป็นหุ้น Recession Proof นี้คือสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในระหว่างภาวะเศรษฐกิจถดถอยนี้
นอกจากการระบุอุตสาหกรรมที่ทำได้ดีในภาวะเศรษฐกิจถดถอย ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องพิจารณา เช่น การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค
โดยในปี 2008 ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 37% ซึ่งเป็นผลตอบแทนรวมประจำปี ที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในปี 1931 อย่างไรก็ตามก็ไม่ใช่หุ้นทุกตัวในตลาดหุ้นอเมริกาที่จะร่วงลง
กล่าวได้ว่าในขณะที่ราคาหุ้นและการดำเนินการของบริษัทส่วนใหญ่ตกลง แต่ก็มีหลายบริษัทที่สามารถดำเนินการได้ดีเป็น 10 อันดับแรกในดัชนี S&P 500 ในปีนั้น ได้แก่ Dollar Tree, Walmart และ Ross Stores ซึ่งมีผลตอบแทนรวมประจำปีที่น่าประทับใจ 60.8%, 20% และ 17.6% ตามลำดับ
ทั้ง 3 บริษัทนี้ คือ ผู้ค้าปลีกต้นทุนต่ำที่ได้รับความนิยม และผลการดำเนินงานที่เป็นบวกสะท้อนให้เห็นความจริงที่ว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ ผู้บริโภคมักจะลดต้นทุนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อประโยชน์ของบริษัทนั้นๆ นั่นจึงทำให้กลุ่มบริษัทผู้ค้าปลีกต้นทุนต่ำจึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาหากกำลังมองหาหุ้น Recession Proof
ลงทุนกับ Admirals
ด้วยบัญชี Invest.MT5 จาก Admirals คุณสามารถซื้อหุ้นได้มากกว่า 4,300 รายการรวมทั้ง หุ้น Recession Proof ดูในบทความนี้! ประโยชน์อื่นๆ ของบัญชี Invest.MT5 ได้แก่:
- ค่าคอมมิชชั่นการทำธุรกรรมต่ำสุด และไม่มีค่าธรรมเนียมการบำรุงรักษาบัญชีอีกด้งย
- การวิเคราะห์ตลาด (market analysis) และคลังบทความเพื่อการเรียนรู้ในการเทรดอย่างต่อเนื่องและไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
เพื่อเริ่มเพลิดเพลินกับสิทธิประโยชน์มากมาย คลิกแบนเนอร์ด้านล่างเพื่อเปิดบัญชี Invest.MT5 วันนี้ได้เลย!
บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ
- หุ้นอวกาศ มีอะไรน่าลงทุนบ้าง
- หุ้นธนาคาร - หุ้นธนาคารประเทศน่าลงทุน
- Wall Street คือ ? คู่มือสู่หัวใจของอุตสาหกรรมการเงินสหรัฐฯ
รู้จักกับ Admirals
Admirals คือ โบรกเกอร์ Forex และ CFD ได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหน่วยงานการเงินพร้อมด้วยรับรางวัลมากมายจากทั่วโลก โดยให้บริการซื้อขายตราสารทางการเงินมากกว่า 8,000 รายการ ผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกอย่าง MT4 และ MT5 เริ่มเทรดเลยวันนี้!
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรตีความว่ามีคำแนะนำใดๆ ในการลงทุน ข้อเสนอหรือการชักชวนสำหรับธุรกรรมใดๆ ในเครื่องมือทางการเงิน โปรดทราบว่าการวิเคราะห์การซื้อขายดังกล่าว ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับประสิทธิภาพในปัจจุบันหรือในอนาคต เนื่องจากสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนลงทุน