หุ้นรัสเซีย วิกฤติการเงินในรัสเซีย และรูเบิลรัสเซีย (RUB)

หุ้นรัสเซียและอุตสาหกรรมการเงินในรัสเซียเคยเป็นหนึ่งในระบบเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกในช่วงปี 2000 - 2012 แต่ต่อมาก็หดตัวอย่างรุนแรง โดยมี GDP ที่เติบโตสูงสุดถึง 83% จากราคาพลังงานที่พุ่งสูง ยอดขายอาวุธและการลงทุนข้ามชาติที่เพิ่มขึ้น
แต่ต่อมาในปี 2013 เศรษฐกิจรัสเซียก็ตกต่ำอย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับ USD โดยค่าเงินรูเบิลร่วงลงถึง 250% จนธนาคารกลางต้องออกมาแทรกแซงค่าเงิน แต่นั่นก็ไม่สามารถฟื้นคืนความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้ และทำให้ค่าเงินรูเบิลตกต่ำและหากไกลจากระดับมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และในบทความนี้เราจะนำคุณมาวิเคราะห์หุ้นรัสเซีย สาเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤติการเงินในรัสเซีย และสาเหตุของความตกต่ำทางเศรษฐกิจไปพร้อมกันที่นี่ที่เดียว!
วิกฤติเศรษฐกิจในรัสเซียทุกเรื่องที่คุณควรรู้
วิกฤติเศรษฐกิจในรัสเซียเกิดจากอะไร
กล่าวได้ว่าสาเหตุหลักที่ส่งผลต่อวิกฤติเศรษฐกิจในรัสเซียคือราคาพลังงานที่ร่วงลงอย่างหนักและการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
1. ราคาน้ำมันที่ตกต่ำ
สินค้าส่งออกหลักของรัสเซียคือสินค้าพลังงานอย่างน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ หากอ้างอิงข้อมูลจาก EIA จะเห็นได้ว่ารายได้จากจากการส่งออกทั้งหมดของรัสเซียในปี
น้ำมันและก๊าซธรรมชาติคิดเป็น 68% ของรายได้ในปี 2023 ของรัสเซีย ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าเศรษฐกิจรัสเซียต้องพึ่งพาราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะน้ำมันเป็นอย่างมาก
ในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นทศวรรษ 2000 ราคาน้ำมันได้เพิ่มสูงขึ้น จากอุปสงค์ที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดเกิดใหม่และอุปทานที่ลดลง นอกจากนี้น้ำมันจากหินดินดาน (Shale Oil) แหล่งพลังงานทางเลือกใหม่ที่ยังไม่ได้เริ่มขุดเจาะใช้งาน ซึ่งจะเป็นอีกแนวทางแห่งความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมน้ำมัน
แต่เนื่องจากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่คาดคิดในสหรัฐฯ และแคนาดา ทำให้ตลาดมีอุปทานน้ำมันจำนวนมาก และส่งผลให้ราคาน้ำมันในปี 2014 ลดลงกว่า 50% โดยและในฤดูร้อนปี 2014 WTI ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานราคาน้ำมันทั่วโลก มีการซื้อขายสูงกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ในช่วงต้นปี 2015 ระดับราคาน้ำมันก็ตกลงมาที่ประมาณ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำให้ OPEC ต้องการลดระดับการผลิตเพื่อกระตุ้นราคาน้ำมัน ซึ่งทำให้ความเครียดต่อเศรษฐกิจรัสเซียรุนแรงขึ้นอีก
2. มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจากนานาชาติ
สาเหตุต่อมาของการล่มสลายทางเศรษฐกิจรัสเซียนั้คือนโยบายต่างประเทศของประเทศ โดยในเดือนมีนาคม 2014 รัสเซียพยายามควบรวมดินแดนไครเมียซึ่งเป็นอดีตดินแดนของยูเครนเป็นของตน ทำให้เกิดมาตรการคว่ำบาตารจากนานาชาติ และนำไปสู่การยกเลิกการเป็นสมาชิก G8 ของรัสเซีย ทำให้กลุ่มกลับมาเป็น G7 ดังเดิม
การกระทำของรัสเซียยังนำไปสู่การคว่ำบาตรทางการเงินหลายครั้งจากทั้งสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งการคว่ำบาตรเหล่านี้จะมุ่งเป้าไปที่ภาคการเงิน พลังงาน และการป้องกันประเทศเป็นหลัก โดย Joe Biden รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้นกล่าวถึงการคว่ำบาตรในเดือนตุลาคม 2014 ว่า "การคว่ำบาตรในครั้งนี้ได้ส่งผบกระทบโดยตรงอย่างการลี้ภัยจากรัสเซีย ต่างประเทศหยุกลงทุนในรัสเซีย รวมทั้งค่าเงินรูเบิลเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ตกต่ำเป็นประวัติการณ์ จนนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจที่เข้าใกล้จะภาวะถดถอยของรัสเซีย"
เแล้วศรษฐกิจรัสเซียแย่ขนาดไหน? หากอ้างอิงข้อมูลจากธนาคารโลกและ OECD การเติบโตของ GDP ของรัสเซียอยู่ที่ 1.06% ในปี 2013 -1.07% ในปี 2014 และ -3.9% ในปี 2015 โดยการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเริ่มหดตัวตั้งแต่ในปี 2014
3. เศรษฐกิจรัสเซียและการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
สภาพเศรษฐกิจรัสเซียยังต้องพึ่งพาความสามารถในการค้าขายในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างมาก เนื่องจากเป็นสกุบเวินอ้าวอิงในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ของโลก โดยเฉพาะในตลาดน้ำมันที่จะต้องจะทำธุรกรรมในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม การคว่ำบาตรรัสเซีย จากการแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ในปี 2016 และความขัดแย้งในยูเครน ส่งผลให้อุตสาหกรรมของรัสเซียและบริษัทที่ใหญ่ที่สุดไม่สามารถใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้
ในขณะที่รัสเซียกำลังพยายามเลิกพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ค่าเงินรูเบิลที่อ่อนค่าลงทำให้เป็นเรื่องยากจนเกิดเป็นปัญหาสำคัญภายในเศรษฐกิจรัสเซีย เนื่องจากบริษัทหลายแห่งยังกู้ยืมเงินเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทรัสเซียไม่สามารถทำธุรกรรมในสกุลเงินรัสเซียต้องหวาดกลัว ทำให้วิกฤตการณ์ทางการเงินของรัสเซียรุนแรงขึ้นอีก และยังคงเพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจรัสเซียต่อไป
4. การกระจายความเสี่ยงในการส่งออกน้ำมันและเศรษฐกิจรัสเซีย
หลังวิกฤติการเงินรัสเซียที่เลวร้ายที่สุดในปี 2014 รายได้ส่วนใหญ่ของประเทศยังคงมาจากการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ แต่ความล้มเหลวในการกระจายเศรษฐกิจของรัสเซียยังมีเป็นประเด็นสำคัญที่โต้แย้งกันอยู่ว่าอะไรคือสาเหตุที่ค่าเงินรูเบิลยังไม่ฟื้นตัวสู่จุดเดิมก่อนเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงิน
และแม้ว่ารัสเซียจะขายก๊าซธรรมชาติให้กับประเทศในยุโรป ซึ่งอาจมีราคาเป็นเงินยูโร แต่การค้าน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกส่วนใหญ่เป็นตลาดเงินดอลลาร์สหรัฐฯ คู่ค้ารายใหญ่ก็ไม่อาจรับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศโดยการซื้อขายสกุลเงินอื่น ยกเว้นจีนที่ได้เพิ่มเพิ่มการซื้อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของรัสเซียในสกุลเงินรูเบิลรัสเซีย
แต่เนื่องจากประเทศต่างๆ พยายามเลิกพึ่งพาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย และหันมาหันมาใช้พลังงานที่สะอาดขึ้น เศรษฐกิจรัสเซียก็อาจยังคงตกต่ำต่อไปอีกหลายปีต่อจากนี้ น่าเสียดายที่ระบบเศรษฐกิจของรัสเซียยังการขาดความหลากหลายทำให้รัสเซียกลายเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำมากเป็นอันดับ 2 ของโลก ส่งผลให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและโอกาสในการเติบโตในอนาคตอันใกล้นี้ต้องหยุดชะงัก
ตอนนี้คุณรู้สิ่งต่าง ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุของวิกฤตการณ์ทางการเงินของรัสเซียแล้ว บางทีอาจถึงเวลาที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขาย การเพิ่มพูนความรู้ของคุณเป็นเรื่องง่ายหากคุณลงทะเบียนเข้าร่วมสัมมนาออนไลน์เกี่ยวกับการซื้อขายของเรา ซึ่งเทรดเดอร์ผู้มีประสบการณ์จะมาแบ่งปันความลับและกลยุทธ์ของพวกเขา คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างเพื่อเข้าถึงพวกเขา!
เศรษฐกิจรัสเซียล่มสลายและการล่มสลายของรูเบิลรัสเซีย
ผลของส่งผลให้นักลงทุนเริ่มนำเงินออกจากรัสเซีย ขายสินทรัพย์ของรัสเซีย และย้ายรายได้ไปที่อื่น ความผันผวนของรูเบิลรัสเซียปรากฏชัดในกราฟด้านล่างนี้
กราฟราคา USD/RUB นด้านบนแสดงขนาดของการลดค่าเงินรูเบิลรัสเซียในอดีต ในช่วงครึ่งหลังของปี 2014 โดยในต้นปี 2014 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ มีมูลค่า ₽32.84 ณ และในช่วงปลายปี 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ มีมูลค่า ₽78.12 สำหรับองค์กรธุรกิจที่พยายามชำระหนี้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในเวลาไม่กี่เดือนที่เลวร้ายนี้ ก็ทำให้ แหล่งรายได้หลักของประเทศอย่างน้ำมัน ก็พังทลายลงเช่นกัน ดังที่สามารถเห็นได้ในกราฟด้านล่างนี้
รายได้จากน้ำมันที่ลดลงรวมกับค่าเงินที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าเงินรูเบิลเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงถึง 250% กล่าวได้ว่าความเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์ของค่าเงินรูเบิลรัสเซียนี้เป็นผลมาจากวิกฤตการณ์ทางการเงินของรัสเซีย ส
ข่าวเศรษฐกิจรัสเซียและค่าเงินรูเบิลในปี 2024
จากข้อมูลข้างต้น เศรษฐกิจรัสเซียและรูเบิลรัสเซียได้รับอิทธิพลอย่างมากจากราคาน้ำมัน เงินดอลลาร์สหรัฐฯ และความเชื่อมั่นทางภูมิรัฐศาสตร์ในระดับระหว่างประเทศ ดังนั้น นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จึงพิจารณาตลาดเหล่านี้อย่างเป็นอิสระ เพื่อพิจารณาความเสี่ยงในเศรษฐกิจรัสเซียและสกุลเงินของรัสเซีย
แนวโน้มเศรษฐกิจรัสเซียในปี 2024 ดูเหมือนจะผสม จากปัจจัยต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อทิศทางของเศรษฐกิจ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า GDP ของรัสเซียอาจเติบโตเล็กน้อยที่ประมาณ 1.5% และอาจชะลอตัวลงเหลือ 1.3% ในปี 2025 ผลประกอบการทางเศรษฐกิจของรัสเซียคาดว่าจะเติบโตที่ 3.1% และอาจต้องเผชิญกับความท้าทายเ นื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง
โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP ของรัสเซียในปี 2024 สะท้อนการประมาณการแบบอนุรักษ์นิยมมากขึ้นที่ 0.5-1.5% การใช้จ่ายทางสังคมคาดว่าจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความมั่นคงของชาติ ซึ่งบ่งชี้ว่างบประมาณมุ่งเน้นไปที่ข้อกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์
กล่าวได้ว่าประสิทธิภาพของรูเบิลรัสเซียมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับปัจจัยทางเศรษฐกิจและเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์โลก โดยแนวทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางแห่งรัสเซียชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 11-13% ในปี 2024 โดยได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ตกต่ำและรูเบิลที่อ่อนค่าลง แต่ UN ก็คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจรัสเซียจะหดตัวเล็กน้อยในปี 2024 ตามด้วยการกลับมาเติบโตในระยะกลางต่ำในปีนี้ 2ซึ่งสามารถชี้ให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของเงินรูเบิล
โดยสรุป เศรษฐกิจรัสเซียในปี 2024 ยังต้องเผชิญกับความท้าทาย อีกทั้งประสิทธิภาพของรูเบิลยังอาจได้รับอิทธิพลจากนโยบายเศรษฐกิจ สภาวะตลาดโลก และข้อพิพาททางภูมิรัฐศาสตร์
คู่เงินดอลลาร์สหรัฐต่อรูเบิลรัสเซีย (USD/RUB) หรือเงินปอนด์อังกฤษต่อรูเบิลรัสเซียเป็นเพียงคู่สกุลเงินส่วนหนึ่งที่คุณสามารถซื้อขายได้กับ Admirals คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างเพื่อเรียนรู้เตรวจสอบคู่สกุลเงินที่หลากหลายที่คุณสามารถเลือกได้ตามต้องการ
การเทรดรูเบิลและวิกฤตการณ์ทางการเงินของรัสเซีย
วิกฤตการณ์ทางการเงินของรัสเซียส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากราคาน้ำมันที่ลดลงและการคว่ำบาตรทางการเงิน แม้เวลาจะผ่านไปหลายปีแล้ว ค่าเงินรูเบิลก็ยังไม่สามารถฟื้นขึ้นมาต่ำกว่า 250% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐได้
แต่ก็มีตัวแปรทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจของเทรดเดอร์ที่ต้องพิจารณาในปีนี้ หากคุณพร้อมที่จะทดสอบแนวคิดและกลยุทธ์การเทรดกของคุณ ลองเปิดบัญชีทดลองเทรดเพื่อฝึกฝนการเทรดในสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ปราศจากความเสี่ยง คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างเพื่อเปิดบัญชีทดลองเทรดก่อนใครได้แล้ววันนี้ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
คำถามที่บ่อยในการลงทุนหุ้นรัสเซีย
วิกฤตการณ์การเงินรัสเซียเกิดจากอะไร ?
วิกฤติการเงินรัสเซียเกิดจาดหลายๆ ปัจจัย เช่น ราคาน้ำมันตก การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่บังคับใช้กับรัสเซีย และการพึ่งพาเศเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในระบบเศรษฐกิจรัสเซีย
วิกฤตการณ์ทางการเงินรัสเซียเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
วิกฤตการณ์ทางการเงินของรัสเซียเริ่มต้นขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2014 เนื่องจากรูเบิลรัสเซียเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงอย่างมาก แต่วิกฤตเศรษฐกิจรัสเซียก็สิ้นสุดลงในปี 2016
รูเบิล (Rub) สามารถซื้อขายในตลาด Forex ได้หรือไม่ ?
เพื่อป้องกันการไหลออกของเงินทุน จึงมีการกำหนดข้อจำกัดที่เข้มงวดเกี่ยวกับการไหลของเงินทุนข้ามพรมแดน และรูเบิล (RUB) ถูกยุติการเป็นสกุลเงินที่แปลงสภาพได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ด้วยข้อจำกัดในการนำสกุลเงินต่างประเทศออกจากรัสเซียในรูปของเงินสด และการโอนเงินผ่านธนาคารระหว่างประเทศมีอย่างจำกัด
บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ
- รู้จักและเข้าใจดัชนีเอฟทีเอสอี100 (FTSE 100)
- รู้จักและเข้าใจดัชนีฮั่งเส็ง (Hang Seng Index) ใน 10 นาที!
- 5 เคล็ดลับในการบริหารเงินทุนใน Forex ให้ประสบความสําเร็จ
ข้อมูลเกี่ยวกับบทความการวิเคราะห์:
ข้อมูลที่ระบุให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะห์ ประมาณการ การพยากรณ์ การคาดการณ์ การทบทวนตลาด แนวโน้มรายสัปดาห์ หรือการประเมินหรือข้อมูลอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน (ต่อไปนี้เรียกว่า "การวิเคราะห์") ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของบริษัทการลงทุนของ Admirals ที่ดำเนินงานภายใต้เครื่องหมายการค้า Admirals (ต่อไปนี้ “Admirals”) โปรดอ่านหมายเหตุ ก่อนการตัดสินใจลงทุนใดๆ
- บทความนี้คือการสื่อสารการตลาด โดยมีเนื้อหาเผยแพร่เพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่สามารถตีความว่าเป็นคำแนะนำหรือคำแนะนำในการลงทุนได้ ไม่ได้จัดทำขึ้นตามข้อกำหนดทางกฎหมาย
ที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความเป็นอิสระของการวิจัยการลงทุน และไม่อยู่ภายใต้ข้อห้ามใดๆ ในการดำเนินการก่อนการเผยแพร่งานวิจัยด้านการลงทุน - การตัดสินใจลงทุนเป็นการติดสินใจของลูกค้าเอง Admirals จะไม่รับผิดชอบต่อการขาดทุน ความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจดังกล่าว ไม่ว่าจะอิงจากเนื้อหาหรือไม่ก็ตาม
- Admirals ได้กำหนดขั้นตอนภายในที่เกี่ยวข้องสำหรับการป้องกันและการจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้า และความเที่ยงธรรมของการวิเคราะห์ข้อมูล
- การวิเคราะห์จัดทำขึ้นโดยนักวิเคราะห์อิสระ (ต่อไปนี้เรียกว่า "ผู้เขียน") ตามการประเมินส่วนบุคคล
- เราได้ตรวจสอบข้อมูลแหล่งที่มาของเนื้อหาทั้งหมดว่าเชื่อถือได้ และข้อมูลทั้งหมดนี้ถูกนำเสนอในลักษณะที่เข้าใจได้ ทันเวลา แม่นยำ และครบถ้วนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ Admirals จะไม่รับประกันความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลที่มีอยู่ในการวิเคราะห์
- ไม่ควรตีความผลการดำเนินงานของเครื่องมือทางการเงินในอดีตหรือแบบทดลองใดๆ ที่ระบุในเนื้อหาว่าเป็นสัญญา โดยชัดแจ้งหรือโดยปริยาย หรือการรับประกันผลการดำเนินการในอนาคต มูลค่าของเครื่องมือทางการเงินอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลง และ Admirals จะไม่รับประกันการรักษามูลค่าของสินทรัพย์ใดๆ
- ผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ (Leverage) (รวมถึงสัญญาส่วนต่าง) คือการเก็งกำไร และอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนหรือกำไรได้ โปรดตรวจสอบความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างถ่องแท้ ก่อนเริ่มทำการซื้อขาย